มองย้อนกลับไปในวัยเด็กของ เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นยอดดาวยิงจอมถล่มประตูที่คู่แข่งจะต้องเกรงขาม ไม่ว่าจะมาท่าไหนหรือจังหวะไหนเขาทำได้ตลอด และทุกครั้งที่ลงสนามเขาจะความมุ่งมั่นกับการแข่งขันมากๆ

นักเตะที่ชื่อ เอดินสัน คาวานี่ ถือกำเนิดในเมืองซัลโต เมืองหลวงของประเทศอุรุกวัย ต่อมาครอบครัวไม่สามารถทนอยู่เพื่อดูรัฐบาลที่มาจากการเผด็จการได้ ซึ่งขณะนั้นครอบครัวของเขาฐานะยากจนมาก และเขาก็กลายเป็นลูกที่ต้องแบกความหวังของครอบครัวเอาไว้

พ่อและแม่หวังอย่างยิ่งในการให้ เอดินสัน เป็นคนดีของของครอบครัว หวังให้เขาได้เจริญก้าวหน้าในประเทศที่กำลังพัฒนาไปในทางที่ดี จากความหวังครั้งนี้จึงเป็นที่มาของ เอดินสัน ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก โทมัส อัลวา เอดิสัน ชายชาวอเมริกันที่ทุกคนประวัติเขาดีซึ่งเป็นคนประดิษฐ์หลอดไฟคนแรกนั่นเองในวันที่ คาวานี่ ประสบความสำเร็จกับอาชีพนักเตะจากอดีตถึงปัจจุบัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขามีข่าวคราวบนหน้สื่อกีฬามากขึ้น ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับสโมสร ปีศาจแดง ทีมที่มีสาวกลูกหนังทั่วโลกยอมรับ ถ้าหากกระแสเกี่ยวข้องกับยูไนเต็ดก็ขายได้เสมอ 

คาวานี่ ที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาแทบจะทุกๆวัน โดยเฉพาะช่วงซีซั่นที่ผ่านมา ที่เขาลงสนามเมื่อไหร่ก็ต้องซัดประตูคู่แข่งได้ตลอด ก็เป็นช่วงเวลาเดียวที่ใครๆก็อยากรู้เรื่องราววัยเด็กที่เป็นจุดเริ่มต้นของเขา 

เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากอาการดีใจที่คล้ายๆกับการยิงธนู เรื่องนี้จึงทำให้ คาวานี่ มองย้อนกลับไปในอดีตถึงวัยเด็ก ที่อยู่กับครอบครัว และการเจริญเติบโตของเขาขึ้นมาในแบบที่ใครหลายคนไม่รู้ 

เจ้าตัวได้ออกมาเผยว่า ท่ายิงประตูที่ทำทุกครั้งที่ดีใจมันมีมาจากบรรพบุรุษของเขา ที่เป็นชนเผ่า ชาร์รัวอาส ซึ่งเป็นเผ่าพื้นเมืองของประเทศอุรุกวัย ที่เขาไม่เคยลืมบุญคุณเลย 

เมื่อเขาซัดประตูคู่แข่งได้เมื่อไหร่ ก็ต้องแสดงอาการดีใจด้วยท่าการยิงธนูทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นประตูที่เลี้ยงหลบคู่แข่งผ่านผู้เล่นทั้งทีม หรือลูกที่ซัดจ่อๆเข้าประตู ระยะแค่เพียงหลาเดียวนั้นไม่สำคัญเลย นั้นคือเป้าหมายที่เขาได้วางเอาไว้ มันจึงทำให้เขามีกำลังใจในการพยายามทำที่จะซัดประตูคู่แข่งให้ได้ 

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเมื่อดูสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือปัจจุบันนักเตะที่ชื่อ คาวานี่ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในวงการลูกหนังและลงเล่นในระดับที่สูงขึ้น เขาสามารถเรียนรู้และพร้อมที่จะพัฒนาเพื่อปรับตัวไปตามยุคสมัย จากอดีตที่เข่าจะมุ่งมั่นทียิงอย่างเดียวก็กลายเป็นคนที่มองผลลัพธ์ของทีมเป็นที่ตั้ง และเหนือสิ่งอื่นใดคือการขยันไล่บี้จนนาทีสุดท้ายด้วยความมุ่งมั่น นั่นคือวิธีการทำงานในแบบที่ คาวานี่ เป็นเสมอมา 

เป้าหมายที่ต้องการเมื่อในอดีตคือ ไอศกรีม แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นความสำเร็จและการตอบสนองความฝันของตัวเอง เขาได้ผ่านการทดสอบและได้พิสูจน์ตัวเขาเองแล้วว่าตัวเองเขายังคงเป็นกองหน้าที่ดีและเป็นนักเตะที่มีความสำคัญกับทีมเสมอ และเมื่ออยู่นอกสนามเขาก็จะประพฤติตัวแบบมืออาชีพ จนเป็นที่รักของเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลในทุกๆที่ที่เขาไป 

“เมื่อตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมมีความรู้สึกว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีหลายสิ่งหลายอย่าง แต่เมื่อคุณโตขึ้นคุณจะรู้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิต” คาวานี่ กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องเล็กๆจากไอศกรีมฟรี กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ได้อย่างน่าชื่นชม แม้จะเติบโตในพื้นที่อับแสงขนาดไหน แต่ถ้ามุ่งมั่น ตั้งใจ และใส่หัวใจลงไปในสิ่งที่ทำมากพอ เมื่อนั้นคุณก็สามารถเปล่งประกายได้ด้วยตัวของตัวเอง ดังเช่นที่ เอดินสัน คาวานี่ เป็นอยู่ในทุกวันนี้